เอ๋??? อาหารแมวแบบไหนถึงจะดีกับน้องแมวน้าาา

กลับมาพบกับเรื่องอาหารของน้องแมวกันอีกแล้วนะคะ หลังจากที่เคยคุยค้างกันไว้…โดยทั่วไปเราจะนิยมซื้ออาหารแมวแบบสำเร็จรูป เพราะทั้งสะดวก และสบาย แต่ทราบกันหรือไม่ว่าควรจะซื้อแบบไหน? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร?
วันนี้ CatLikeLove จะมาบอกวิธีเลือกซื้ออาหารแมวให้มีประโยชน์ และดีต่อสุขภาพแมวกันค่ะ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักอาหารสัตว์ในบ้านเรากันก่อนนะคะ อาหารสัตว์ในตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ
1. Commertial grade : ใช้ของเหลือจากการผลิตอาหารคนมาทำเป็นอาหารสัตว์
2. Premium grade : ใช้วัตถุดิบที่ดีขึ้นมากกว่า Commertial grade บางยี่ห้อก็เป็น By-product (เศษชิ้นส่วนที่หลงเหลือและทิ้งหลังจากกระบวนการผลิตอาหาร) อาหารเกรดนี้ จะมีการการันตีปริมาณสารอาหารในถุง
3. Holistic grade : ใช้เนื้อสัตว์ในการผลิตเป็นหลัก ไม่มีส่วนผสมของ By-product ส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อเกรดเดียวกับอาหารคน

เมื่อจะเลือกซื้ออาหารให้ดู 3 ข้อดีนะคะ
ข้อที่ 1 : เลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัย
แมวเด็ก : 1-12 เดือน –> แมวเด็กกินของแมวโต = แมวเด็กโตไม่เต็มที่
แมวโต : 1-7 ขวบ –> แมวโตกินของแมวเด็ก = มากๆก็อ้วน
แมวแก่ : 7 ขวบขึ้นไป –> ต้องการไฟเบอร์ เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

ข้อที่ 2 : ดูส่วนประกอบของอาหาร ว่ามีเนื้อสัตว์ ,ปลา หรือไข่ อยู่ในลิสต์ส่วนประกอบในอันดับ 1,2 ซึ่งจะเป็นส่วนประกอบที่มีสัดส่วนมากที่สุด เพราะมีเปอร์เซ็นต์ของโปรตีนสูง

ข้อที่ 3 ดูที่ Guarantee Analysis ส่วนใหญ่แล้ว เท่าที่สังเกตุ จะคล้ายๆกันเกือบทุกยี่ห้อ แต่ที่ควรจะดูด้วย คือ %moisture ซึ่งควรจะต่ำกว่า 10%
* อาหารเม็ดที่ฉลากระบุว่ามี %moisture 10% หมายความว่า จะเหลือ dry matter คือสารอาหารจริงๆ 90%

แค่นี้เพื่อนๆ ก็เลือกซื้ออาหารที่ดีต่อน้องแมวได้แล้วค่าาา ง่ายนิ๊ดเดียว เห็นมั๊ยยย…

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนสนใจอ่าน  icon_black-cat
” เลือกอาหารให้แมวยังไงดีน้อออ ??? ”  [จิ้มไปย้อนอ่าน]
“อาหารที่ แมว(และหมา) ไม่ควรกิน !!!” [จิ้มไปย้อนอ่าน]

ของแถม
คลิปน้องแมวหม่ำๆ กล้วย น่าร๊ากกก

 

catikelove-mascot