[Knw] คุมกำเนิดแมวยังไงให้มีประสิทธิภาพ

หลังจากที่ได้ลงเรื่องเกี่ยวกับการทำหมันแมวไปบ้างแล้ว มีเพื่อนๆ หลายคนที่สงสัยเรื่องการทำหมันอยู่ค่ะ วันนี้ CatLikeLove  icon_heart-move   ก็เอาบทความดีๆ เกี่ยวกับการทำหมันมาให้เพื่อนๆ อ่านกันอีกค่าาา เราจะได้คุมกำเนิดน้องแมวได้อย่างหายห่วง ไม่ต้องกังวลค่ะ…

ก่อนอื่นเราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงรอบการผสมพันธุ์ของแมวก่อนนะคะ เพื่อจะได้วางแผนป้องกันและควบคุมได้อย่างถูกต้อง  face-yeah

วงรอบการผสมพันธุ์ของแมวแบ่งได้ดังนี้

1. ระยะแสดงอาการเป็นสัด เป็นระยะที่เจ้าเหมียวของเราจะเริ่มมีอาการเอาหัวหรือคางมาถูตามตัว และสิ่งของรอบข้างนะคะ ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 1-2 วัน ถ้าน้องแมวเริ่มมีอาการแบบนี้ละก็ต้องเตรียมตัวหาทางป้องกันได้แล้วละจ้า

2. ระยะยอมรับการผสม ระยะนี้อาจสังเกตได้จากการที่แมวเอาขาหน้าหมอบลงกับพื้น ส่วนขาหลังจะยืนเหยียดและโก่งหลังขึ้น เบี่ยงหาง ร้องเรียกตัวผู้ ช่วงนี้หากน้องแมวได้จับตู่กันละก็…เตรียมเลี้ยงลูกแมวน้อยกันได้เลย

3. ระยะหลังผสมพันธุ์ ในกรณีที่ตั้งท้อง แม่แมวจะตั้งครรภ์ประมาณ 60 วัน ถึงจะคลอด ที่น่าตกใจก็คือ แมวบางตัวสามารถผสมพันธุ์ต่อได้หลังคลอดเพียง 4-7 วันเท่านั้น

4. กรณีที่ไม่เกิดการผสมพันธุ์ แมวจะใช้เวลาประมาณตั้งแต่ 7-30 วัน ในการกลับเข้าสู่วงจรในข้อ 1 ใหม่

แมวบางตัวอาจจะมีการผสมพันธุ์กันได้เร็วสุดประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง หากแมวของเราไม่ได้ทำการป้องกันโดยการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เราก็จะมีเจ้าแมวน้อยกันเต็มบ้านแหงๆ เลย !!!

วิธีการคุมกำเนิดในแมว แบ่งเป็น

1. การทำหมัน โดยการผ่าตัดเอารังไข่และมดลูกออก  เป็นการคุมกำเนิดในระยะยาว
มีข้อดีคือ ช่วยลดพฤติกรรมการร้องหาคู่ในแมวตัวเมียบางตัว เป็นการป้องกันการเกิดมดลูกอักเสบในแมวอายุมาก และหากทำหมันตั้งแต่ช่วงอายุน้อย (น้อยกว่า 1-2 ปี) จะช่วยลดปัญหาในการเกิดเนื้องอกเต้านมเมื่อแมวอายุมากได้ด้วย
ข้อเสียของวิธีนี้อยู่ที่แมวจะต้องถูกวางยาสลบและผ่าตัด ทำให้มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจาการวางยา หรือความเสี่ยงที่แผลผ่าตัดจะเกิดการติดเชื้อได้ แต่หากทำการผ่าตัดโดยสัตวแพทย์ที่มีความชำนาญและมีการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด จะช่วยลดความเสี่ยลงได้มาก

2. การกินยาคุมกำเนิด โดยการป้อนฮอร์โมนให้ ยาประเภทนี้ต้องเป็นยาที่ใช้สำหรับในแมวเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิดของคนได้ ในบ้านเรา ยาชนิดนี้หาซื้อไม่ค่อยได้ อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงมาก ทำให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมค่ะ

3. การฉีดยาคุม ปัจจุบันยาที่เราใช้ในการฉีดกันในแมวมี 2 ชนิด คือ ยาคุมที่ใช้ในคน และยาคุมที่ใช้ฉีดในสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ที่จริงแล้วการฉีดยาคุมในแมวมีผลเสียหลายประการ เช่น เหนี่ยวนำทำให้เกิดภาวะมดลูกอักเสบได้ ทำให้เกิดเนื้องอกเต้านม นอกจากนี้ หากฉีดขณะที่แมวมีการตั้งท้องแล้ว ก็อาจจะส่งผลให้แมวเกิดการคลอดลูกไม่ได้ ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจส่งให้เสียชีวิตทั้งแม่และลูกได้  

หากจำเป็นที่จะต้องทำการฉีดยาคุมจริงๆ ควรจะใช้ยาคุมสำหรับแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากจะช่วยลดผลข้างเคียงจากยาได้ ก่อนทำการฉีดยาจะต้องพาเจ้าเหมียวไปให้สัตวแพทย์ทำการตรวจเพื่อหาระยะการเป็นสัดของแมวที่จะทำการฉีด เนื่องจากหากทำการฉีดโดยไม่มีการตรวจหาระยะที่เหมาะสมแล้วอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดี หรือาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาค่ะ

4. การฝังฮอร์โมน วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่ในบ้านเรา ทำได้โดยการฉีดฮอร์โมนเข้าไปภายในตัวเจ้าเหมียว เพื่อคุมกำเนิด ข้อดี คือ ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงและมีผลข้างเคียงกับร่างกายไม่ค่อยมาก ข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จึงยังไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรา ทำให้โรงพยาบาลที่รับการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้หาได้ค่อนข้างยาก

จากทุกวิธีที่ได้กล่าวมามีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกใช้ ซึ่งการเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมก็จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลว่าน้องแมวจะออกลูกออกหลานเต็มบ้าน และลดผลข้างเคียงที่จะเกิด เพื่อน้องแมวสุดที่รักจะได้สุขภาพแข็งแรง อยู่กับเราไปนานๆ ค่าาาา

แล้วพบกับบทความดีๆ ได้ใหม่ โอกาสหน้านะคะ   facr-meow m2b48wink 

Source
พระรามแปดสัตวแพทย์
Cat Magazine