สำหรับผู้ที่รักแมวในญี่ปุ่นหลายๆ คน การดื่มสักแก้วตอนเย็นหลังเลิกงาน พร้อมมีแมวนอนซบบนตัก เป็นสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถเลี้ยงแมวได้ ร้านกาแฟน้องเหมียว หรือที่เรียกกันว่า “เนโกะ คาเฟ่” น่าจะเป็นสถานที่วิเศษสุดแล้วสำหรับการผ่อนคลายความตึงเครียดจากงาน แค่จ่ายค่ากาแฟเพิ่มขึ้นอีกหน่อย…แค่คิดก็สุดยอดไปเลยใช่มั๊ยล๊าาาาา
แต่ในตอนนี้นักเคลื่อนไหวพิทักษ์สิทธิสัตว์ในญี่ปุ่นกลับมองว่า ร้านกาแฟทำนองนี้ทำให้สัตว์เลี้ยงเครียด ทำให้มีกฎหมายใหม่ที่ห้ามร้านกาแฟที่มีสัตว์เลี้ยง อย่างแมวหรือสุนัข นำสัตว์มาเล่นในร้านหลัง 2 ทุ่ม ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้กลางปี
กระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นร่างกฎใหม่นี้ขึ้นมา หลังได้รับคำร้องเรียนจากประชาชน 1.55 แสนคน นับว่าสูงมากทีเดียวสำหรับประเทศที่ผู้คนไม่นิยมแสดงออกทางการเมืองมากนัก
แต่ชินจิ โยชิดะ ผู้จัดการร้านกาแฟแมวในย่านอิเคบูคุโระ ย่านธุรกิจในโตเกียว กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำเป็นช่วงที่ลูกค้าเยอะ ลูกค้า 80% เป็นมนุษย์เงินเดือนที่แวะหย่อนใจจากการเคร่งเครียดกับงานตอนกลางวันและเดินทางไกล หากร้านต้องปิดในเวลา 2 ทุ่ม คงจะขาดทุนแน่ๆ และมองว่ากฎใหม่ไม่ได้ช่วยคุ้มครองสวัสดิภาพแมวแต่อย่างใด
ร้านของโยชิดะเลี้ยงแมวได้ 13 ตัวในห้องปูพรมอย่างดี มีที่ทางสำหรับกระโดดโลดเต้นและปีนป่ายไปตามต้นไม้ปลอม ตอนกลางวันจะปล่อยให้มันนอนหลับพักผ่อนเต็มที่ และขอให้ลูกค้าห้ามแตะต้องหากมันหลับอยู่
พนักงานออฟฟิศอย่าง อายาโกะ คันซากิ วัย 22 ปี เป็นขาประจำคนหนึ่งของร้านกาแฟแมว เธอชอบแมว แต่อพาร์ตเมนต์ที่พักอยู่เล็กเกินกว่าจะเลี้ยงได้ เธอไม่ใช่คนชอบเที่ยวสังสรรค์ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เลยมักไปร้านคนเดียวเพื่อเล่นกับแมว หากเป็นตอนกลางวัน แมวจะเอาแต่นอน หรือหากไม่นอนก็จะไม่ค่อยสนใจคน ตอนเย็นๆ มันถึงจะมีชีวิตชีวาและขี้เล่น หากบังคับให้ร้านปิดตอนกลางคืน เธอจะไม่มีโอกาสมาที่นี่อีกเลย
แต่นักรณรงค์เพื่อสวัสดิภาพสัตว์กล่าวว่า จำนวนลูกค้าที่เข้ามาลูบหัวลูบหางแมวตั้งแต่เช้าถึงเย็นโดยที่มันไม่รู้จักมักคุ้นนั้น สร้างความเครียดให้แก่พวกมัน อย่างไรก็ดี ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ “อะไลฟ์” ฟูซาโกะ โนงามิ กล่าวว่า การห้ามนำสัตว์มาแสดงในตอนค่ำเป็นเรื่องดี แต่ยอมรับว่า ร้านกาแฟแมวยังไม่ใช่การแก้ปัญหาถูกจุดนัก ปัญหาจริงๆ ในญี่ปุ่นคือ คนจำนวนมากมองสัตว์เหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องประดับแฟชั่น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีสิทธิของตนเอง
สำหรับในบ้านเราก็มีกระแสต่อข่าวนี้เหมือนกันนะคะ ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แล้วเพื่อนๆ มีความเห็นกันอย่างไรบ้างเอ่ย? สำหรับ CatLikeLove คิดว่าเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็ดีนะคะ น้องแมวจะได้มีความสุข และเราก็มีความสุขไปด้วย ได้กันทั้ง 2 ฝ่ายค่าาาาาา
source : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก